กาวตะปู คืออะไร?
กาวตะปู คือ กาวเอนกประสงค์ที่ใช้สำหรับติดตั้งวัสดุต่างๆ แทนตะปู และไม่ต้องทำการเจาะ หรือตอกตะปูให้เสียเวลา โดยกาวตะปูนั้นมีคุณสมบัติในการช่วยยึดเกาะที่แน่น มีแรงยึดสูง และแห้งเร็ว นอกจากนั้นยังสามารถยึดเกาะกับวัสดุได้หลากหลายชนิด และพื้นได้หลากหลายรูปแบบ แถมยังสามารถใช้งานได้สะดวก และใช้งานง่าย ใช้เวลาในการติดตั้งไม่นาน ถึงจะเป็นช่างมือสมัครเล่นก็สามารถใช้ได้อย่างแน่นอน
ประเภทของกาวตะปู
ก่อนที่จะเลือกใช้กาวตะปูในการติดสิ่งต่างๆ ที่คุณต้องการ ทาง TOA อยากจะแนะนำประเภทของกาวตะปูให้ทุกคนรู้จักเสียก่อน เพื่อจะได้เลือกใช้กาวตะปูให้ถูกต้อง และเหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด โดยกาวตะปูสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้
กาวตะปูสูตรน้ำ
กาวตะปูสูตรน้ำ เป็นกาวตะปูที่มีน้ำเป็นส่วนผสม ทำให้กาวไม่มีกลิ่น ไม่ฉุน ไม่แสบตา และไม่แสบจมูก แต่ว่ากาวสูตรนี้จะเหมาะกับการใช้งานในภายใน พื้นผิวที่ไม่เรียบ พื้นผิวที่มีรูพรุน พื้นผิวที่ไม่มีความชื้น หรือพื้นผิวที่มีอุณหภูมิไม่เกิน 35 องศาเซลเซียส
กาวตะปูสูตรน้ำมัน
กาวตะปูสูตรน้ำมัน หรือสูตรโซลเวนท์ สามารถใช้งานในพื้นผิวได้หลากหลายกว่ากาวตะปูสูตรน้ำ ไม่ว่าจะเป็นงานไม้ งานโลหะ งานกระเบื้อง หรือวัสดุอื่นๆ ก็สามารถยึดติดได้ดี แถมยังมีความทนทานต่อสภาวะอากาศที่แปรปรวน และสามารถใช้งานได้ทั้งภายใน และภายนอก เพราะสามารถทนความร้อนได้มากถึง 50 องศาเซลเซียส
กาวตะปูติดอะไรได้บ้าง?
กาวตะปูติดอะไรได้บ้าง? สามารถติดได้ทุกอย่างเลยหรือเปล่า? คำตอบ คือ กาวตะปูนั้นสามารถติดได้เกือบทุกอย่างเลยก็ว่าได้ เพราะสามารถติดได้ทั้งพื้นผิวเรียบ หรือพื้นผิวที่มีรูพรุน เช่น ไม้ ปูนคอนกรีต ไฟเบอร์ซีเมนต์ กระเบื้องเซรามิค (แบบผิวด้าน) กระจกเงา โฟมโพลีสไตรลีน บัวผนัง บัวพื้น แผ่นผนัง แผ่นปูพื้น แผ่นไม้ แผ่นโลหะ พื้นผิวที่เป็นปูนปลาสเตอร์ หรือพื้นผิวต่างๆ ที่มีความแข็ง เป็นต้น ทั้งนี้ แม้ว่ากาวตะปูจะสามารถติดได้เกือบทุกสิ่ง แต่ก็ยังคงต้องคำนึงถึงปัจจัยทั้ง 3 อย่างนี้ร่วมด้วย
- น้ำหนักของวัสดุ ควรคำนึงถึงน้ำหนักของวัสดุก่อนว่ามีน้ำหนักมากน้อยแค่ไหน เพื่อจะได้เลือกใช้กาวตะปูให้เหมาะสมกับวัสดุ เพราะถ้าหากเลือกได้ไม่เหมาะสม อาจทำให้วัสดุนั้นยึดติดไม่อยู่ได้
- สีของวัสดุ ก่อนใช้กาวตะปูควรคำนึงถึงสีของวัสดุร่วมด้วย โดยถ้าใช้สีของกาวตะปูเป็นสีเดียวกันกับวัสดุก็จะช่วยให้งานดูเรียบร้อย คุมโทนได้ง่าย และสวยงามมากยิ่งขึ้น
- สถานที่ติดตั้ง ควรดูก่อนว่าสถานที่ติดตั้งนั้นอยู่ที่ไหน เป็นส่วนภายนอก หรือภายใน และมีพื้นผิวอย่างไร เพื่อจะได้ประเมินได้ถูกต้องว่าควรใช้กาวตะปูประเภทไหนให้เหมาะสมกับงาน และทำให้การติดกาวตะปูนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
4 คุณสมบัติเด่นของกาวตะปู
ถ้าหากคุณกำลังลังเลว่ากาวตะปูนั้นจะดีจริงหรือไม่? หรือว่ามีความโดดเด่นกว่าอุปกรณ์ยึดติดอื่นๆ เช่น ตะปู น็อต หรือสกรูอย่างไร? ขอบอกว่าทาง TOA ได้รวบรวม 4 คุณสมบัติเด่นของกาวตะปูมาให้คุณแล้ว ดังนี้
- แห้งเร็ว แห้งไว
คุณสมบัติเด่นอย่างแรกของกาวตะปูที่น่าจะถูกใจหลายๆ คน คือ แห้งเร็ว แห้งไว ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องเสียเวลาในการรอให้กาวแห้งนาน และสามารถจบงานได้อย่างรวดเร็ว
- ใช้ได้ทั้งภายในภายนอก
กาวตะปูนั้นมีเสถียรภาพสูง ทำให้มีความทนทานต่อสภาวะอากาศ เช่น ความร้อน ความชื้น และแรงสั่นสะเทือน เป็นต้น จึงสามารถใช้ได้ทั้งภายใน และภายนอก
- ทนทานต่อรังสี UV
นอกจากกาวตะปูจะมีเสถียรภาพสูง และมีความทนทานต่อสภาพอากาศที่แปรปรวนแล้ว ยังมีคุณสมบัติคือทนทานต่อรังสี UV ด้วย ไม่ว่า UV จะเยอะแค่ไหน กาวตะปูก็ไม่หลุดล่อนง่ายๆ อย่างแน่นอน
- ยึดเกาะวัสดุได้หลากหลาย
คุณสมบัติเด่นอย่างสุดท้ายที่ถูกใจช่างมือใหม่หลายๆ คนอย่างแน่นอน คือ สามารถยึดเกาะวัสดุได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแผ่นไม้ โลหะ กระเบื้อง กระจกเงา คอนกรีต บัวพื้น พัวเพดาน แผ่นผนัง แผ่นพื้นปูน หรือพื้นผิวที่มีความแข็ง เพียงแค่ใช้กาวตะปูหลอดเดียวก็เอาอยู่
กาวอเนกประสงค์ TOPBOND
ㆍกาวตะปูอเนกประสงค์ พลังกาวคุณภาพสูงยึดติดได้ดีกับวัสดุหลายประเภท
. สำหรับใช้ยึดติดวัสดุในงานก่อสร้างทั่วไป และงานซ่อมแซม
เช่น ติดแผ่นผนัง แผ่นปูพื้น
ㆍติดแน่น แห้งเร็ว ใช้งานง่าย
ㆍใช้ได้ทั้งภายใน และภายนอก
ㆍทนต่อรังสี UV และทนต่อทุกสภาพอากาศ
ㆍสามารถใช้งานได้กับพื้นผิววัสดุหลากหลายประเภท เช่น ไม้ กระจก
คอนกรีต เซรามิก(ผิวด้าน)
ㆍใช้กับโฟมโพลีสไตรีน และกระจกเงาได้
ㆍ ขนาด 320 กรัม
ㆍเนื้อกาวสีครีม
ข้อมูลทางเทคนิค
ㆍลักษณะ : เหนียวข้น คงตัวเป็นเนื้อเดียวกัน
ㆍ ค่าความถ่วงจำเพาะ 1.16 + /-0.05
ㆍ ความหนืด 110,000 cps.
ㆍ กำลังยึดติดแบบเฉือน > 1 Mpa.
ㆍระยะเวลาก่อนประกบชิ้นงาน 5 – 10 นาที
ㆍ ระยะเวลาประกบชิ้นงานเข้าด้วยกัน 20 – 30 บาที
ㆍอุณหภูมิระหว่างติดตั้ง -10 C ถึง 30 C
ㆍ อุณหภูมิใช้งาน -30* C ถึง 85 C
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
ㆍควรทำความสะอาดพื้นผิว ปราศจากฝุ่น ก่อนยึดติดด้วยกาวตะปู
ผิววัสดุควรมีความเรียบ และแห้ง
ㆍ กรณีพื้นผิวไม่สม่ำเสมอ ให้ยิงกาวเป็นจุด
ㆍกรณีวัสดุที่จะยึดติดมีขนาดเล็กหรือติดในแนวราบ ให้ยิงแบบเส้นตรง
ㆍกรณีวัสดิ์ที่จะยึดติดมีขนาดใหญ่หรือติดในแนวดิ่ง ให้ยิงแบบซิกแซก
ㆍ การยึดตัดจะเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์หลัง 24 ชม.สำหรับกระจก
และหลังจาก 48-72 ชม.สำหรับวัสถุฉนวน
ㆍ ควรจัดเก็บไว้ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก
ㆍห้ามสูดดมหรือรับประทาน
กาวตะปูมีข้อดี-ข้อเสียในการใช้งานอย่างไร?
สำหรับข้อดีของกาวตะปูนั้นหลายๆ คนอาจจะได้อ่านมาแล้วจากบทความด้านบน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานที่ง่าย สะดวกสบาย ติดกับวัสดุได้หลายอย่าง ใช้ได้กับหลายพื้นผิว แถมยังแห้งเร็ว แห้งไว ไม่ต้องเสียเวลารอนาน แต่กาวตะปูนั้นก็มีข้อเสียที่ทุกคนควรรู้ไว้เช่นกัน ดังนี้
- กาวตะปูบางสูตร หรือบางยี่ห้อมีส่วนผสมของสารระเหยที่กระทบต่อระบบหายใจ
- กาวตะปูบางสูตร หรือบางยี่ห้อมีคุณสมบัติในการกัดกร่อนพื้นผิว หรือวัสดุ
- ถ้าหากแกะกาวตะปูไม่ถูกต้อง อาจทิ้งคราบกาวไว้บนพื้นผิว หรือวัสดุได้
- กาวตะปูมักจะแห้งเร็ว และแข็งตัวไว ถ้าหากใช้ไม่หมด และเก็บรักษาไม่ดี อาจทำให้กาวใช้งานไม่ได้
กาวตะปู เป็นกาวที่มีความสามารถในการยึดเกาะได้อย่างดีเยี่ยม และสามารถยึดเกาะได้ทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นไม้ โลหะ กระเบื้อง คอนกรีต หรือปูนพลาสเตอร์ นอกจากนั้นยังแห้งไว ใช้งานง่าย ไม่ต้องนั่งรอให้กาวแห้งหลายชั่วโมง แถมยังสามารถใช้งานได้ทั้งภายนอก และภายใน จึงเรียกได้ว่าเป็นกาวเอนกประสงค์ที่ครบ จบในหลอดเดียว และนี่คือเหตุผลที่ว่า ทำไมหลายๆ คนจึงหันมาเลือกใช้กาวตะปูกันมากยิ่งขึ้น